ประกันสุขภาพรายบุคคล และ ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย ต่างกันอย่างไร
อัพเดทล่าสุด: 3 เม.ย. 2025
42 ผู้เข้าชม
ประกันสุขภาพรายบุคคล และ ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย ต่างกันอย่างไร
ประกันสุขภาพรายบุคคล และ ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายเป็นรูปแบบของ การประกันสุขภาพที่มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองสุขภาพของผู้เอาประกัน แต่ทั้งสองแบบมีความแตกต่างในลักษณะของความคุ้มครองและเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้ :
1. ประกันสุขภาพรายบุคคล
ความคุ้มครองแยกรายการ : ประกันสุขภาพรายบุคคลจะให้ความคุ้มครองแยกตามหมวดหมู่หรือรายการ เช่น ค่าห้อง ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ค่าหมอ หรือค่ายา โดยแต่ละรายการจะมีวงเงินคุ้มครองที่กำหนดไว้ชัดเจน
เช่น ค่าห้อง 2,000 บาทต่อวัน ค่าผ่าตัดไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้ง
ข้อจำกัดการเคลม : การเคลมจะต้องยึดตามวงเงินที่กำหนดไว้ในแต่ละรายการ ดังนั้นหากค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการเกินวงเงินที่กำหนด ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายส่วนต่างเอง
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการประกันที่มีค่าธรรมเนียมเบี้ยประกันต่ำกว่า และสามารถรับเงื่อนไขการคุ้มครองแบบจำกัดได้
2. ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย
ความคุ้มครองรวม (เหมาจ่าย) : ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจะให้วงเงินคุ้มครองเป็นจำนวนรวมต่อปี เช่น
1,000,000 บาทต่อปี โดยไม่แบ่งแยกรายการต่าง ๆ หมายความว่าผู้เอาประกันสามารถใช้วงเงินนี้ได้ในทุกกรณี
เช่น ค่าห้อง ค่าผ่าตัด หรือค่ารักษาพยาบาลใด ๆ ภายใต้เงื่อนไขของประกัน
ข้อดีของการเคลม : ไม่ต้องกังวลเรื่องการแบ่งวงเงินในแต่ละหมวดหมู่ สามารถใช้วงเงินตามที่จำเป็นจริงในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ เช่น หากมีค่ารักษาพยาบาลสูงในหมวดใดหมวดหนึ่งก็สามารถใช้วงเงินคุ้มครองทั้งหมดได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องแยกรายการ
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่ยืดหยุ่นและครอบคลุมมากขึ้น แต่เบี้ยประกันจะสูงกว่าประกันแบบรายบุคคล
สรุปความแตกต่างหลัก
ประกันสุขภาพรายบุคคล : วงเงินคุ้มครองจะแยกรายการ และมีข้อจำกัดในแต่ละหมวดหมู่ของการรักษา
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย : วงเงินคุ้มครองรวม ไม่แยกรายการ สามารถใช้ได้ตามความจำเป็น แต่เบี้ยประกันจะสูงกว่า
การเลือกประเภทประกันขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการของผู้เอาประกันเอง
ประกันสุขภาพรายบุคคล และ ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายเป็นรูปแบบของ การประกันสุขภาพที่มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองสุขภาพของผู้เอาประกัน แต่ทั้งสองแบบมีความแตกต่างในลักษณะของความคุ้มครองและเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้ :
1. ประกันสุขภาพรายบุคคล
ความคุ้มครองแยกรายการ : ประกันสุขภาพรายบุคคลจะให้ความคุ้มครองแยกตามหมวดหมู่หรือรายการ เช่น ค่าห้อง ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ค่าหมอ หรือค่ายา โดยแต่ละรายการจะมีวงเงินคุ้มครองที่กำหนดไว้ชัดเจน
เช่น ค่าห้อง 2,000 บาทต่อวัน ค่าผ่าตัดไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้ง
ข้อจำกัดการเคลม : การเคลมจะต้องยึดตามวงเงินที่กำหนดไว้ในแต่ละรายการ ดังนั้นหากค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการเกินวงเงินที่กำหนด ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายส่วนต่างเอง
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการประกันที่มีค่าธรรมเนียมเบี้ยประกันต่ำกว่า และสามารถรับเงื่อนไขการคุ้มครองแบบจำกัดได้
2. ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย
ความคุ้มครองรวม (เหมาจ่าย) : ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจะให้วงเงินคุ้มครองเป็นจำนวนรวมต่อปี เช่น
1,000,000 บาทต่อปี โดยไม่แบ่งแยกรายการต่าง ๆ หมายความว่าผู้เอาประกันสามารถใช้วงเงินนี้ได้ในทุกกรณี
เช่น ค่าห้อง ค่าผ่าตัด หรือค่ารักษาพยาบาลใด ๆ ภายใต้เงื่อนไขของประกัน
ข้อดีของการเคลม : ไม่ต้องกังวลเรื่องการแบ่งวงเงินในแต่ละหมวดหมู่ สามารถใช้วงเงินตามที่จำเป็นจริงในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ เช่น หากมีค่ารักษาพยาบาลสูงในหมวดใดหมวดหนึ่งก็สามารถใช้วงเงินคุ้มครองทั้งหมดได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องแยกรายการ
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่ยืดหยุ่นและครอบคลุมมากขึ้น แต่เบี้ยประกันจะสูงกว่าประกันแบบรายบุคคล
สรุปความแตกต่างหลัก
ประกันสุขภาพรายบุคคล : วงเงินคุ้มครองจะแยกรายการ และมีข้อจำกัดในแต่ละหมวดหมู่ของการรักษา
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย : วงเงินคุ้มครองรวม ไม่แยกรายการ สามารถใช้ได้ตามความจำเป็น แต่เบี้ยประกันจะสูงกว่า
การเลือกประเภทประกันขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการของผู้เอาประกันเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
โรคหรือปัญหาสุขภาพที่พนักงานออฟฟิศมักเผชิญเป็นผลมาจากการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีลักษณะซ้ำๆ และนั่งเป็นเวลานานๆ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ตัวอย่างโรคและอาการที่พบบ่อย ได้แก่
3 เม.ย. 2025
ประกัน 5 โรคร้ายแรง เป็นประกันสุขภาพที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองผู้ถือกรมธรรม์ เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นหนึ่งใน 5 โรคร้ายแรงที่กำหนดไว้ในสัญญาประกัน โดยทั่วไป 5 โรคร้ายแรงที่คุ้มครองอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับบริษัทประกัน แต่ส่วนใหญ่จะรวมถึงโรคเหล่านี้
3 เม.ย. 2025